ทำความรู้จักกับ Zack Rago นักดำน้ำหนุ่มสายอนุรักษ์ เจ้าของตำแหน่ง “Sea Hero”

หนุ่มสาวส่วนใหญ่เลือกกิจกรรมดำน้ำมักจะมาเพราะความรักในความสวยงามของทะเลเป็นหลัก หลายคนใช้การดำน้ำเพื่อการเอนจอยวันหยุดท่องเที่ยวของตัวเอง แต่ท่ามกลางนักดำน้ำ young blood ทั้งหลาย ก็มีอยู่จำนวนหนึ่งที่ทรานสฟอร์มเมอร์ตัวเองมาเป็นนักอนุรักษ์ด้วย จากการที่ลงดำน้ำแล้วพบเห็นกับปัญหาความเสื่อมโทรมของโลกใต้ทะเลจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมโลกมากกว่าคนอื่นๆ ที่อยู่บนบก

แซค ราโก้ เป็นนักดำน้ำหนุ่มรุ่นใหม่ที่กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับกลุ่มเจนเนอเรชั่นเดียวกับเขาเกี่ยวกับการรณรงค์ปัญหาสภาวะโลกร้อนที่ส่งผลกระทบต่อธรรมชาติใต้ทะล แซคเป็นที่รู้จักจากผลงานสารคดีชื่อดัง Chasing Coral ออกฉายเมื่อปี 2017 โดย Chasing Coral ได้ตีแผ่เรื่องราวของการเปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศใต้ทะเลของแนวปะการังเกรตแบริเออร์รีฟ ซึ่งเป็นผลกระทบมาจากปัญหาสภาพแวดล้อมโลกในปัจจุบันที่เป็นที่กล่าวขวัญถึงในวงกว้าง จากสารคดีชุดนี้ Scuba Diving Magazine กับ Seiko Watch ได้ยกย่องให้แซคกลายเป็น Sea Hero จากการเป็นแรงบันดาลใจให้คนหนุ่มสาวจำนวนมากหันมาสนใจกับปัญหาสิ่งแวดล้อมใต้ทะเลขึ้นมา

ระหว่างการถ่ายทำสารคดีเรื่องนี้ แต่เริ่มเดิมที แซค มีตำแหน่งเป็นหนึ่งในทีมช่างภาพใต้น้ำ แต่ถูกนำมาอยู่หน้ากล้องเสียเอง ก่อนถ่ายทำสารคดีเรื่องนี้ แซคไม่เคยดำน้ำที่เกรตแบริเออร์มาก่อน และใฝ่ฝันจะไปถึงแดนสวรรค์ของนักดำน้ำให้ได้ในซักวัน แต่เมื่อเข้ามาร่วมทีมและลงพื้นที่จริง เขากลับต้องกลายมาเป็นประจักษ์พยานต่อการสูญเสียแนวปะการังครึ่งหนึ่งของเกรตแบริเออร์รีฟที่ยิ่งใหญ่จากปรากฎการณ์ปะการังฟอกขาวที่เกิดจากภาวะโลกร้อน ใน Chasing Coral แซคเป็นตัวแทนของคนหนุ่มสาวในการทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงแทนมหาสมุทรของเรา ในการบอกข่าวการสูญเสียนี้ต่อคนหมู่มากว่า ความป่วยไข้ของโลกใต้น้ำนั้นมาถึงขีดวิกฤติเพียงไร เราได้สูญเสียครึ่งหนึ่งของแนวปะการังที่ยาวที่สุดในโลกไปเรียบร้อยแล้ว และเราทุกคน ควรทำอะไรซักอย่างเพื่อรับมือกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลกที่กำลังฆ่าระบบนิเวศทางธรรมชาติ

ประวัติส่วนตัวของหนุ่มนักดำน้ำคนนี้ เขาเป็นนักดำน้ำมากประสบการณ์คนหนึ่งที่หลงรักโลกใต้ทะเลจากการไปท่องเที่ยวที่ฮาวายในวัยเยาว์กับครอบครัว เรียนจบทางด้านชีววิทยาและนิเวศวิทยาทางทะเลจากมหาวิทยาลัยโคโลราโด เป็นผู้ชำนาญการทางด้านปะการังคนหนึ่งที่สามารถจำแนกสายพันธุ์ปะการังได้อย่างเชี่ยวชาญ เพราะเคยทำงานเพาะพันธุ์ปะการังมากว่า 5 ปีในอควาเรี่ยมตั้งแต่สมัยเป็นนักศึกษา แม้ว่าจะถูกเรียกว่า Sea Hero แต่เจ้าตัวกลับชอบให้คนเรียกเขาว่าเป็น Coral Nerd มากกว่า (ลองคิดแทนความรู้สึกของเขาว่าคนที่รักปะการังมากขนาดนี้ กลับต้องมาบันทึกภาพแนวปะการังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกค่อยๆ ฟอกขาวตายไป เขาจะเจ็บปวดแค่ไหน)

ปัจจุบัน แม้ Chasing Coral จะออกฉายเรียบร้อยแล้วกว่า 70 ประเทศทั่วโลก แต่หนังจบ โปรเจ็คต์ยังไม่จบ ทีมงานยังคงเดินหน้ารณรงค์แคมเปญเกี่ยวกับการให้ความสำคัญของปัญหาสิ่งแวดล้อมทางทะเลอย่างต่อเนื่อง และแซค ผู้ที่น่าจะนับว่าเป็นจุดศูนย์กลางของการเล่าเรื่องในสารคดีเรื่องนี้ ก็ทุ่มเทตัวเองเต็มที่กับการรณรงค์ให้กับแคมเปญดังกล่าว โดยไปออกพูดและจัดเสวนาตามโรงเรียนและสถาบันการศึกษาต่างๆ โน้มน้าวให้เด็กๆ และคนหนุ่มสาวหันมาให้ความสำคัญกับวิทยาศาสตร์ ระบบนิเวศทางทะเล และการร่วมมือกันแก้ไขปัญหาสภาวะโลกร้อน เพราะเขาเชื่อว่าการโน้มน้าวให้คนรุ่นใหม่จะเป็นคำตอบให้กับการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่ในในอนาคตที่ดีขึ้น

ถึงจะเป็น Sea Hero แต่ฮีโร่ไม่ใช่คนเดียวที่ต้องแก้ปัญหา ฮีโร่ในโลกของความเป็นจริงไม่มีพลังอำนาจวิเศษ มีแต่พลังใจและความกล้าในการจะนำทางให้กับคนส่วนใหญ่มาเข้าร่วมแก้ไขปัญหาด้วยกัน เพราะปัญหาใหญ่ระดับโลก เกิดขึ้นเพราะคนจำนวนมากบนโลก หนทางแก้ไขปัญหาก็ต้องอาศัยคนจำนวนมากเช่นกันในการเข้าร่วมแก้ไข

เรามีโลกอยู่ร่วมกันเพียงใบเดียว จะทำเป็นธุระไม่ใช่กับปัญหาของโลกได้อย่างไร

จริงมั้ยครับ