top of page

คุณอยากเป็น Freediver แบบไหน?


ไม่กี่ปีมานี้เอง ที่กระแส Freediver เริ่มบูมขึ้นมากับกลุ่มคนรุ่นใหม่สายฮิปสเตอร์ ที่ชอบแชะภาพเก๋ๆ ไม่เหมือนใครมาอัพตามช่องทางโซเชี่ยลส่วนตัว Freedive เลยกลายเป็นกิจกรรมมีสไตล์ที่หลายคนอยากจะทำความรู้จัก อยากจะลองชิคๆ คูลๆ แบบวิถี Freediver กันดูบ้าง แต่กว่าจะเท่แบบในภาพที่เห็น มันก็ต้องเป็นเรื่องที่ต้อง “เรียน” ให้ได้ “รู้” กันก่อนที่จะทำเป็นนะครับ

Courtesy of Leaderfins

หลักการดำน้ำแบบ Freedive จริงๆ มันเกี่ยวข้องกับเรื่องของการฝึกการหายใจและการจัดระเบียบร่างกายใต้น้ำให้เป็น เพราะเป็นการดำน้ำโดยไม่มีอุปกรณ์ช่วยหายใจใต้น้ำ ส่วนใหญ่พวก Freediver เขาจะแบ่งออกเป็นสองกลุ่มใหญ่ๆ ครับ จากเป้าหมายการดำน้ำที่ต่างกัน คือ Freediver สายนักกีฬา กับ Freediver สายลั้ลลา

กลุ่มแรก Freediver สายนักกีฬา (competitive freediving) ชื่อก็บอกแล้วว่าเขามาสายแข่งขันเอาชนะ พวกนี้จะเป็น Freediver ที่เอาจริงเอาจัง มุ่งมั่นกับการฝึกฝนเพื่อทำลายสถิติ ใครดำได้ลึกกว่า อยู่ใต้น้ำได้นานกว่า ทำสถิติท้าทายความสามารถของร่างกายตนเองกันแบบแข่งกีฬาทั่วไป แต่กีฬา Freedive นี่เขาไม่สามารถเอามาบรรจุเป็นแบบโอลิมปิกหรือแข่งกีฬามาตรฐานทั่วไปได้ เพราะมันค่อนข้างจะเอ็กซตรีมและอันตรายเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน ทำให้การแข่งขันของกีฬา Freedive ยังคงเป็นเกมกีฬาเฉพาะกลุ่มอยู่ เช่นเดียวกับพวกกีฬาเอ็กซตรีมอื่นๆ เช่น แข่งรถ พารามอเตอร์ กระโดดร่ม ฯ ล ฯ

อันตรายของ Freediver สายแข่งคืออะไร ?

Sayuri Kinoshita from Japan is on her way down to an 80 meter FIM Japanese record. Photo by Daan Verhoeven

Freediver เป็นการดำน้ำลึกโดยไม่ใช้อุปกรณ์ช่วยหายใจใต้น้ำครับ แต่เป็นการใช้การหายใจที่เก็บออกซิเจนไว้กับร่างกายให้ได้มากพอที่จะอยู่ในน้ำได้นานกว่าคนปกติทั่วไปสามารถทำได้ เรารู้กันอยู่แล้วว่ามนุษย์ทุกคนต้องหายใจเอาออกซิเจนเข้าไปเพื่อขับเคลื่อนร่างกาย ถ้าสมองขาดออกซิเจนเกิน 4 นาทีก็ทำให้สมองตายได้แล้ว และอาจทำให้เกิดอาการภาวะหัวใจหยุดเต้นในที่สุด คนธรรมดาแค่กลั้นหายใจนิ่งๆ 1 นาทีก็ไม่ไหวแล้ว เพราะร่างกายเราต้องการออกซิเจน แต่สิ่งที่นักกีฬา Freedive ทำ คือการฝึกฝนร่างกายให้เก็บออกซิเจนเอาไว้ให้ได้มากที่สุด โดยการแข่งขันมีทั้งการทำให้ตัวเองอยู่ใต้น้ำได้นานที่สุด หรือลงไปใต้น้ำให้ได้ลึกที่สุด อย่างตอนนี้ โดยสถิติคนที่ Free Dive ได้ลึกที่สุดคือ Herbert Nitsch ชาวออสเตรีย โดยดำได้ลึกสุด 253.2 เมตร เมื่อปี 2012 แล้วคนที่กลั้นหายใจใต้น้ำได้นานที่สุดจนกินเนสส์บุ๊คส์บันทึกไว้ล่าสุดคือ Aleix Segura Vendrell เป็น Free Diver ชาวสเปน โดยพี่แกทำสถิติในสระว่ายน้ำได้นาน 24 นาที 3.45 วินาที ในปี 2016 เล่นกันโหดๆทั้งนั้นครับพวกสายนักกีฬาเนี่ย ประเด็นคือ สถิติมันต้องถูกทำลายเรื่อยๆ เพื่อให้โลกจำ เขาก็พยายามที่จะต้องทำให้ได้

ว่ากันว่า หมองูมักตายเพราะงู คนที่เก่งอะไรมากๆ มักจะตายเพราะความเก่งนั้น นักกีฬา Freediver ตัวพ่อตัวแม่หลายคนก็มักจะเสียชีวิตลงเพราะการฝืนร่างกายตัวเอง ยอมทำอะไรที่เสี่ยงมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะต้องการเอาชนะ หรือชะล่าใจว่าตัวเองนั้นเจ๋งพอ เลยไม่ทำตามกฎปฏิบัติ

แต่สำหรับ Freediver สายลั้ลลานั้น (recreational freediving) มันจะชิลล์กว่านั้นเยอะ กลุ่มนี่อาจจะเป็นนักท่องเที่ยว หรือเป็นสายนางแบบก็ได้ทั้งนั้นครับ พวกนี้มีสกิล Freedive แบบทั่วไป ผ่านการเรียนที่ถูกต้อง ประมาณว่า หนูทำได้ โดยไม่หักโหมฝึกฝนร่างกายเป็น X-mens เพื่อไปทำลายสถิติใคร เน้นแฮปปี้กับชีวิตด้วยการไปท่องเที่ยว Freedive เพราะถ้าคุณเป็นนักดำน้ำสาย Freedive ชื่อก็บอกแล้วว่า ชีวิตมัน Free มาก คุณไม่ต้องแบกอุปกรณ์ดำน้ำอะไรทั้งนั้นล่ะ ทั้งเนื้อทั้งตัว มีหน้ากาก สนอร์คเกิลและฟินสำหรับฟรีไดฟ์จับใส่กระเป๋า แค่นี้ก็จบละ ไม่ต้องไปเช่าแทงค์อากาศ ไม่ต้องเหมาเรือลำใหญ่ทีละหลายๆ คนเพื่อความคุ้มในแต่ละทริป ไปกับเพื่อนคนสองคนก็ Freedive ได้ทุกหนแห่ง เพราะคุณไม่ได้ไปแข่งกับใครว่าต้องอยู่ลึกสุด อยู่ใต้น้ำได้นานสุด

เดี๋ยวนี้ เราอาจจะเห็นเซ็ตถ่ายภาพอาร์ต ภาพแฟชั่น หรือวิดีโอเป็นภาพนางแบบ นายแบบใต้น้ำสวยๆ กันเยอะขึ้น จากความนิยมเรื่อง Freedive ซึ่งจริงๆ เป็นเรื่องที่มีกันมานานแล้วล่ะครับ แต่สมัยก่อนมันยังไม่บูมเหมือนตอนนี้ พวกนางแบบที่ถ่ายใต้น้ำ คุณรู้กันหรือเปล่าว่าก่อนที่ได้ถ่ายงานแบบนี้ เขาต้องไปเทคคอร์ส Freedive กันทั้งนั้น เพื่อที่จะให้ตัวเองอยู่ใต้น้ำได้นานพอที่ช่างภาพจะเก็บภาพดีๆได้ ถ้าหากไม่มีสกิลนี้เลย เมื่อถึงตอนถ่ายทำจริงๆ เกิดนางแบบสติแตกใต้น้ำมาจากการหายใจไม่ทัน ช่างภาพก็ไม่สามารถทำงานได้ หรือถ้าฝืนตัวเองแบบไม่มีทักษะการหายใจเลย ก็จะเป็นอันตรายกันอีก ถ้ารักอยากถ่ายภาพใต้น้ำ ทำงานโปรดักชั่นสายนี้ก็ต้องมีสกิล Freediver ครับ หรืออย่างน้อยก็ต้องพอหายใจได้บ้างและถ่ายภาพในจุดที่ไม่ลึกมากโดยมีทีมงานเอาอากาศไปจ่อที่ปากให้ตอนพัก ( อ้อ...สายตากล้องเนี่ย เขาคงไม่ค่อย Freedive กันนะครับ เค้าก็ดำน้ำแบบ SCUBA นี่ล่ะ เพราะต้องถือกล้อง แบกอุปกรณ์ ให้ Freedive ลงทำงานก็โหดเกิ๊น)

สิ่งที่ต้องรู้ต้องเรียนสำหรับ Freediver สายลั้ลลามีเพียงแค่หลักของการฝึกเก็บลมหายใจใต้น้ำให้เป็น เข้าใจหลักความปลอดภัยพื้นฐานของการดำน้ำแบบ Freedive เสียก่อน ของพวกนี้เป็นเหมือนสกิลติดตัวน่ะครับ เป็นเรื่องของการฝึกใช้ร่างกายของตัวเองแบบเดียวกับคนหัดขี่จักรยาน หัดว่ายน้ำ หัดร้องเพลง ฯ ล ฯ มันเป็นทักษะที่เราทุกคนไม่ได้มีมาตั้งแต่เกิด แต่เรียนรู้และฝึกได้ ขอเพียงมีใจให้มาก็เป็น Freediver ได้ทุกคน

ถ้าหากอยากใช้ชีวิตสไตล์ Freediver ก็ต้องถามใจตัวเองละว่าอยากมาทางไหนมากกว่ากัน ถ้าคุณรักความเอ็กซตรีม ชอบความท้าทาย อยากเอาชนะผู้อื่น เอาชนะตนเอง ก็ไปทางสายแข่ง เดินตามหาแชมป์โลกดำลึกได้โล่อะไรก็ว่ากันไป ถ้าคุณแค่อยากสนุกกับการท่องเที่ยวมากขึ้นด้วยการดำน้ำแบบ Freedive สนใจการถ่ายภาพใต้น้ำสวยๆ คุณก็มาสายลั้ลลา สนุกสนานไม่ซีเรียสมากมาย ความชอบของแต่ละคนไม่เหมือนกันครับ

ก็ Freedive มันก็บอกอยู่ในชื่อแล้วว่า ดำน้ำแบบอิสระ ใครๆ ก็ Freedive ได้ แต่จะ Freedive กันแบบไหน การตัดสินใจอยู่ที่ตัวคุณเองครับ

The Author is PADI Master Freediver Instructor


about him

A non-political traveler, a long-standing certified dive instructor, a pilot-in -training, an underwater photographer and most importantly a man who is still learning with himself on his own pace with growing number of deep sea interests.

bottom of page