top of page

Plastic Ocean : ทะเลป่วยหนัก ก็เพราะเรารักทะเล(ไม่เป็น)


ไม่กี่ปีมานี้ กลุ่มอนุรักษ์ทางทะเลมีกระแสต่อต้านการใช้พลาสติกมากขึ้นเรื่อยๆ จากจำนวนขยะพลาสติกมหาศาลที่ลอยละล่องพบเห็นได้ทั่ว 7 คาบสมุทร พลาสติกที่เราใช้กันอย่างสะดวกทุกวี่วัน ปัจจุบันมันอาจจะหวนกลับมาหลอกหลอนเราได้มากกว่าที่เราคิดไว้ หลายๆ กลุ่มองค์กรในประเทศพัฒนาต่างพยายามที่จะเข้ามามีบทบาทในการลดจำนวนขยะพลาสติกทั้งในแง่ของการใช้และการหาวัสดุทดแทน

(ภาพปลากระเบนยักษ์ว่ายน้ำกับพลาสติกในทะเลประเทศอินโดนีเซีย ภาพจาก Courtesy Elitza Germanov/Marine Megafauna Foundation)

เมื่อไม่นานมานี้ มาการนำเสนอภาพใต้ท้องทะเลแถบประเทศอินโดนีเซียซึ่งขึ้นชื่อเรื่องของความสวยงามอุดมสมบูรณ์ใต้ท้องทะเลที่ทำให้ผู้พบเห็นต้องสะพรึงใจ เมื่อช่างภาพใต้น้ำบันทึกภาพปลากระเบนยักษ์ที่กำลังแหวกว่ายอยู่ท่ามกลางเศษพลาสติกจำนวนมหาศาล รับรองสภาวะดังกล่าว จากผลการศึกษาสถิติการผลิตขยะพลาสติกในปี 2010 อินโดนีเซียเป็นประเทศอันดับที่สองของโลกที่ผลิตขยะพลาสติกให้กับโลก (3.22 ตัน) โดยอันดับหนึ่งเป็นของประเทศจีน (8.82ตัน) ซึ่งไทยเองก็ติดอันดับกับเขาด้วยในอันดับที่ 5 (1.03 ตัน)

นอกจากขยะพลาสติกที่เราว่าอันตรายแบบเห็นได้ด้วยตาเปล่าแล้ว ยังมีพลาสติกอีกแบบที่สามารถสร้างความวินาศกับสภาพแวดล้อมได้มากกว่า นั่นคือ " ไมโครพลาสติก " อ้ะ...งง ก็พวกเม็ดพลาสติกขนาดเล็กจิ๋วเป็นอณูที่อยู่ตามกลิตเตอร์ สี เครื่องสำอางต่างๆ ยาสีฟัน สบู่ ครีมกันแดด ครีมโกนหนวด ฯ ล ฯ สิ่งเหล่านี้เรานักดำน้ำเองก็จัดเต็ม หรือไม่ก็เป็นส่วนหนึ่งของการลงดำน้ำแต่ละ dive ทัั้งนั้น ไม่ว่าการทำความสะอาดหน้ากาก หรือการทำฟิล์มด้วยยาสีฟัน แชมพู การอาบน้ำท้ายเรือ การทาครีมกันแดดหนาเกินไป การใช้ wetsuit ที่เก่ามากๆจนสารเคลือบกันยูวีหมดไปเหลือแต่สารตกค้างจากการฟอกผลิตที่สามารถละลายในน้ำทะเลหรือน้ำเกลือ

หลายคนอาจจะคุ้นกับชื่อ " ไมโครบีดส์ " ซึ่งก็คือ ส่วนหนึ่งของ Micro Plastic ที่กล่าวมานั่นเองครับ

โดยขนาดของมันจิ๋วหลิวเพียง 1 นาโนเมตร ง่ายๆคือเท่าไวรัสเลยล่ะ มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น มันเป็นสิ่งที่มนุษย์คิดค้นขึ้นมาไม่ถึง 30 ปีมานี้เอง แต่มีผลทำให้สิ่งแวดล้อมวายวอดเอามากๆ งานงานศึกษาของระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (International Union for Conservation of Nature and Natural Resources : IUCN) ระบุว่า ทั่วทั้งโลกมีการทิ้งไมโครพลาสติกกว่า 1.5 ล้านตันต่อปีสู่ทะเล โดย 98% เป็นไมโครพลาสติกจากการใช้ในครัวเรือนของมนุษย์บกนี้ล่ะ ส่วนอีก 2% มาจากกิจกรรมทางทะเล

ลองคิดว่าคุณชะล้างมันแล้ว เจ้าพวกไมโครพลาสติกพวกนี้ก็จะละลายไปกับน้ำทิ้ง ไมโครพลาสติกพวกนี้มันเล็กจนเล็ดรอดกระบวนการบำบัดน้ำไปเสนอหน้าปะปนกับแหล่งน้ำธรรมชาติในที่สุด ทั้งแม่น้ำ ทะเล มหาสมุทร กุ้งหอยปูปลา สิ่งมีชีวิตทั้งหลายก็รับเอาไมโครพลาสติกเข้าไปในระบบหายใจใต้น้ำของมัน มนุษย์จับสัตว์ทะเลมาบริโภค ก็บริโภคไมโครพลาสติกเข้าสู่ร่างกายกันโดยถ้วนหน้า อาเมน...

ผลของการรับสารพลาสติกเข้าไปในร่างกาย ไม่ว่าจะคนหรือปลา หลักๆคือจะทำให้ระบบฮอร์โมนและสารเคมีในร่างกายผิดปกติ มีผลต่อระบบประสาท การเจริญเติบโต เอาง่ายๆคือ มันเป็นพิษ แม้แต่คนโง่ที่สุดก็รู้ว่า พลาสติกมันไม่ใช่อาหาร บริโภคเข้าไปคือตายผ่อนส่งกันทั้งโลก

อ่านแล้วเครียดใช่ไหมครับ ? ดีแล้วครับ เพราะอยากให้ตระหนักถึงความอันตรายของมัน ว่าสิ่งเล็กๆ ธรรมดาๆ ในชีวิตประจำวันของเราก่อความพังยับให้กับโลกใบนี้ได้แค่ไหน จะได้ลดละเลิกลงบ้าง

เรื่องเหล่านี้ ถ้าคุณเป็นคนทั่วไปคุณว่าคุณเครียดแล้ว นักดำน้ำที่รักทะเลอย่างกับบ้าน ยิ่งเครียดกว่า

เราเคยลงไปแล้วเห็นสิ่งที่สวยงาม สิ่งที่มหัศจรรย์ เราอยากให้มันดำรงอยู่ต่อไปนานๆ อยากให้สิบปี ยี่สิบปีเราดำลงไป เราก็ยังเห็นภาพนั้นอยู่ รุ่นลูกรุ่นหลานเราต่อๆไปก็ยังได้เห็นได้อยู่กับธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่แบบนั้น

การเห็นภาพท้องทะเลที่เสื่อมโทรมลง เหมือนกับการเห็นเพื่อนของเรากำลังป่วย สิ่งที่เราพอจะช่วยได้คือการเป็นกระบอกเสียงเตือนคนอื่นๆบนโลกให้ตระหนักถึงปัญหาร่วมกัน ซึ่งจะว่าไป มันก็มีเสียงสะท้อนกลับมาของคนที่คิดเหมือนๆกันกับเรา รู้สึกเหมือนๆกันกับเรา

กระแสการหยุดใช้พลาสติกเริ่มมีผลมากขึ้นเรื่อยๆ จากการที่หลายประเทศเริ่มออกกฎเกี่ยวกับการจัดการขยะพลาสติกเข้มงวดขึ้น เช่น ในปีนี้ รัฐแคลิฟอร์เนีย-สหรัฐอเมริกา จะเข้าร่วมโครงการการหยุดใช้ถุงพลาสติกร่วมกับประเทศอื่นๆ อย่าง เคนย่า จีน บัลกลาเทศ รวันดา มาซิโดเนีย ฝรั่งเศส รัฐซานฟรานซิสโก-สหรัฐอเมริกา แบนการใช้ถ้วยและบรรจุภัณฑ์โฟม ปลายปีที่ผ่านมา โรงเรียนอนุบาลในอังกฤษ เริ่มรณรงค์ให้เลิกใช้กลิตเตอร์ในงานศิลปะ แม้ว่าจะยังไม่มีผลสำรวจเกี่ยวกับความสำเร็จจากโครงการเหล่านี้เด่นชัด แต่อย่างน้อย มนุษย์จำนวนไม่น้อยบนโลกเริ่มเกิดการตอบรับกับปัญหาสภาพแวดล้อมทางทะเลที่ทุกคนล้วนแล้วแต่เป็นหนึ่งในผู้ร่วมสร้างปัญหาทั้งนั้น

เมื่อปัญหาขยะพลาสติก กลายเป็นการขว้างงูไม่พ้นคอสำหรับมนุษยชาติ การแก้ไขปัญหาจึงต้องอาศัยความร่วมมือกันของทุกคน

ไม่ใช่เพียงแต่ว่าอยากรักษาทะเลสวยๆเอาไว้ลงไปดำน้ำเล่นอย่างเดียวหรอกนะครับ แต่อยากให้โลกใบนี้เป็นบ้านที่น่าอยู่ของทั้งตัวผมเอง และรุ่นลูกรุ่นหลานต่อๆไป เรื่องไหนที่ไม่ยากเกินที่จะทำให้ ก็ช่วยๆกันเถอะครับ แค่ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของไมโครพลาสติก เลิกใช้ถุงพลาสติก กินน้ำไม่ต้องใช้หลอด สั่งกาแฟเอาแก้วส่วนตัวไปใช้เอง สิ่งเล็กน้อยพวกนี้ หากทุกคนช่วยกันมันก็เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ได้เสมอครับ


about him

A non-political traveler, a long-standing certified dive instructor, a pilot-in -training, an underwater photographer and most importantly a man who is still learning with himself on his own pace with growing number of deep sea interests.

bottom of page