top of page

ญี่ปุ่น.. ใครๆก็ไป(ดำน้ำ)ได้


เป็นที่ทราบกันดีนะครับว่าประเทศญี่ปุ่น มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย และหลากหลายประเภท นักท่องเที่ยวบางคนมาญี่ปุ่นเพื่อที่จะมาชมวัฒนธรรมที่เก่าแก่ในประเทศญี่ปุ่น บางคนมาเพื่อได้เห็นเทคโนโลยีสมัยใหม่ บางคนมาเพื่อสัมผัสกับธรรมชาติที่แท้จริง

ความหลากหลายตามแต่ละสถานที่ จึงเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของประเทศญี่ปุ่นครับ และทำให้ที่นี่กลายเป็นประเทศที่ยังเป็นความฝันของนักท่องเที่ยวชาวไทยซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สิ่งที่แปลกใหม่และนักท่องเที่ยวชาวไทยไม่ค่อยทราบคือ ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีจุดหมายดำน้ำอุ่นและน้ำเย็นดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก!

รูปแบบการท่องเที่ยวดำน้ำของบ้านเรามักจำกัดอยู่ไม่กี่แบบ เช่นการซื้อทัวร์ดำน้ำในประเทศไปกับเรือ หรือซื้อทัวร์จากในประเทศไปต่างประเทศใกล้ไกล ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการเป็นผูกทัวร์ไปกับบริษัทเรือ live-aboard ในต่างประเทศซะมากกว่า สำหรับนักดำน้ำหลายคน บางทีก็แอบมีเบื่อ มุมเดิม วิวเดิม รูปแบบเรือเดิมๆ ไปทริปต่างประเทศบางครั้งถึงจะเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่แลดูจะใกล้ แต่เอาเข้าจริงก็มีเดินทางรอนแรมกันหลาย(สิบ)ชั่วโมงจนถึงเป็นวัน เปลี่ยนเครื่องหลายต่อ นั่งรถ ต่อเรือเล็ก กว่าจะมาถึงเรือใหญ่ และต้องมาใช้ชีวิตนั่งจุกอยู่บนเรืออีก 6-7วัน

การดำน้ำในญี่ปุ่นสะดวกและง่ายเหมือนการเดินทางไปญี่ปุ่น ที่เดี๋ยวนี้ทุกคนทำได้เองครับ ดำน้ำที่ญี่ปุ่นเป็นการเปิดโลกสู่การดำน้ำที่น่าตื่นตาตื่นใจในแหล่งดำน้ำใหม่หลากหลายแนว เป็นโลกใหม่ของการดำน้ำที่หลีกหนีความจำเจกับหมายดำน้ำเดิมๆที่มี เราสามารถเดินทางถึงจุดดำน้ำง่าย สะดวก รวดเร็ว อิสระสูงสุด สำหรับคนที่ชอบไปญี่ปุ่นอยู่แล้วยิ่งง่าย ทราบกันดีว่าระบบขนส่งของเค้าดีมากๆทั้งรถไปและรถบัสที่เข้าถึงได้ทุกจุดในแผนที่ หรือจะเช่ารถขับเองก็ราคาไม่แพง

ที่ญี่ปุ่น ไม่ว่าเราเดินทางเพืือดำน้ำโดยเฉพาะ หรือจะผสมผสานรวมกับการท่องเที่ยวโปรแกรมอื่นด้วยตัวเองก็ทำได้เอง เรียกว่าดำน้ำเสร็จแล้วออกมาหาของกินอาหารอร่อยๆ (เหมาะกับนักท่องเที่ยวและนักดำน้ำสายรับประทาน) นอนเรียวกังสบายอกสบายใจ อาบน้ำแร่ แช่ออนเซ็น (ซึ่งแทบจะมีอยู่ทุกทีใกล้จุดหมายดำน้ำ) ที่สำคัญ การดำน้ำในญี่ปุ่นสะดวกมากกว่าที่ทุกคนคิดเยอะครับ ไม่ต้องขนอุปกรณ์ถ้าไม่อยากขน ไม่ต้องเดินทางกันข้ามวันข้ามคืน และอยู่ในราคาที่เอื้อมถึง

เรามาดูกันครับ ว่าคนญี่ปุ่น(และชาวต่างชาติที่ไปเที่ยวญี่ปุ่น)เค้าไปดำน้ำกันที่ไหนบ้าง

หมู่เกาะ Okinawa และ Yonaguni

เมืองโอกินาว่าและหมู่เกาะโยนาดูนิ อยู่ทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น มีสิ่งที่น่าสนใจมากมายครับ ไม่ว่าจะเป็นทะเลสวยใส ป่าทางธรรมชาติ แหล่งมรดกโลกกับประวัติความเป็นมาอันยาวนาน วัฒนธรรมด้านอาหารอันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ แหล่งช้อปปิ้งหลากหลาย และอื่นๆ อีกมากมาย

โอกินาว่ามีลักษณะเป็นหมู่เกาะเขตร้อน การดำน้ำในโอกินาว่าให้ครบควรใช้เวลาประมาณ 5-7 วัน สามารถใช้ wetsuit ธรรมดาได้ สามารถเดินทางระหว่างเกาะโดยเรือเฟอรรี่หรือเครื่องบินเล็กในระยะเวลาสั้นๆ ลักษณะการดำน้ำเป็นการดำน้ำอุ่นคล้ายกับประเทศไทย ทีเที่ยวบินตรงราคาประหยัดจากกรุงเทพใช้เวลาเดินทางพียง 3ชั่วโมงเศษเท่านั้น โอกิน่าว่าสามารถดำน้ำได้ทุกฤดูกาลครับ ตัวอย่างไฮไลต์ใน เดือน กุมภาพันธ์ –มีนาคมช่วงปลายหน้าหนาว ก็เป็นการดำน้ำเพื่อชมฉลาม hammerhead หรือการดำน้ำค้นหา Lost Atlantis ที่เกาะ Yonaguni ชมถ้ำ Cave Nita

หรือดำน้ำกับวาฬ blue whales ที่เกาะ Kerama Islands ดำชมเรือจมชื่อดัง USS Emmons ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของโอกินาว่า ดำถ้ำที่มีสเน่ห์สวยงามไม่เหมือนใครที่เกาะ Miyako ลุ้น Manta Rays ที่เกาะ Yaeyama เป็นต้น โดยทั่วไปโอกินาว่าเหมาะสำหรับผู้ที่มีเวลาเดินทางพักผ่อนดำน้ำ 2-3วัน แต่ก็สามารถผสมผสานการท่องเที่ยวดำน้ำและการเดินทางท่องเที่ยวรูปแบบอื่นๆได้ไม่ยากเลยครับ

เมือง Tateyama

เมืองทาเทย่ามาอยู่ทางตอนกลางของประเทศญี่ปุ่น จังหวัดชิบะ ใกล้โตเกียว เป็นแหล่งดำน้ำยอดฮิตของชาวญี่ปุ่นในการดูฉลามหลายประเภทซึ่งคนญี่ปุ่นอนุรักษ์แบบธรรมชาติเอาไว้ ไปกลับวันเดียวแบบ day trip ได้ นั่งเรือเพียง 10นาทีจากฝั่ง

การดำน้ำสามารถใช้ wetsuit ธรรมดาได้สบายๆครับ ไปดู nurse shark ทานข้าวพร้อมกันเป็นร้อยๆตัวพร้อมกัน การดำน้ำที่นีเหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบชีวิตเมืองแบบโตเกียว หรือมีเวลาดำน้ำจำกัดเพียงวันเดียว เดินทางง่ายมากครับ นอกจากนั้น ดำน้ำเสร็จแล้วยังสามารถเดินทางต่อไปแหล่งออนเซ็นในเมืองนากาโนที่มีชื่อเสียงได้สะดวก ที่นี่เหมาะสำหรับผู้ที่มีเวลาเดินทางพักผ่อนดำน้ำครึ่งวัน หรือ 1-2วันครับ

เขต Hokkaido

เมืองยอดฮิตของนักท่องเที่ยวไทยที่พลาดไม่ได้เลย อยู่ทางตอนเหนือของญี่ปุ่น เหมือนจะหนาว แต่จริงๆแล้วสามารถดำน้ำได้ตลอดปีสำหรับการดำน้ำในทะเลสาปชื่อดัง Lake Shikotsu ไม่ว่าจะเป็นหน้าร้อนและหน้าหนาวนะครับ คนญีุ่ปุ่นตั้งใจไปดำน้ำที่นี่กับแมวน้ำและสิงโตทะเล พร้อมๆกับ landscape แบบภูเขาไฟใต้น้ำที่ทะเล Sea of Okhotsk ใกล้เมือง Sapporo ความใสของน้ำทะเลหน้าร้อนเรียกว่าใสกิ๊ก สามารถใส่ wetsuit 5mmขึ้นไปก็ดำน้ำได้แล้วครับ ไฮไลต์อีกรูปแบบของการดำน้ำที่นี่คือ การดำน้ำแข็งที่เขตมรดกโลกจังหวัด Shiretoko ระหว่างเดือน มกราคม – มีนาคม เป็นแหล่งดำน้ำแข็งแห่งเดียวในเอเชีย ซึ่งนักดำน้ำมือใหม่ระดับ open water ก็สามารถดำได้ไม่ยากครับ

สำหรับคนที่กลัวหนาว บอกได้ว่าไม่ต้องกังวล อุณหภูมิของน้ำในหน้าหนาวประมาณ 3˚C หน้าร้อนประมาณ 15˚C การดำน้ำควรใช้ drysuit ก็อุ่นแล้ว เพราะการสวมใส่เค้าจะใช้ก๊าสพวกฮีเลียมอัดลงไปในชุดดำน้ำเราให้อุ่นๆ ก็เพื่อความอบอุ่นสบายๆเวลาว่าย และความสนุกสนานในการดำน้ำ การดำน้ำแบบนี้ฝึกไม่ยากครับ การดำน้ำด้วย drysuit เค้าดำกันทั้งโลก คนไทยอาจไม่คุ้นเพราะเราดำน้ำเขตร้อนมาตลอด ฝึกครึ่งวันก็ดำได้แล้ว จะฝึกที่เมืองไทย หรือญี่ปุ่นก็ได้

การดำน้ำที่ฮอกไกโดเหมาะสำหรับผู้ที่มีเวลาเดินทางพักผ่อนเพื่อดำน้ำ 1-2วัน หรือมากกว่านั้น นักท่องเที่ยวยังสามารถเผื่อเวลาไปทำกิจกรรมอื่นในเมืองยอดฮิตนี้ ซึ่งยังมีอีกมาก ในเขตฮอกไกโดกิจกรรมส่วนใหญ่ในหน้าหนาวออกแนวนิ่งเงียบ ทั้งสกี สเลต ปีนเขา ตกปลาจากทะเลสาปน้ำแข็ง หน้าร้อนก็จะมีชีวิตชีวาไปอีกแบบ ปีนผา คายัค โดดร่ม เดินป่า แนวนี้ครับ

เขตเกาะ Kushimoto

เมืองคูชิโมโตะ อยู่ทางตอนกลางลงใต้ ในเขตคันไซ สามารถดำได้ตั้งแต่เดือนกรกฏาคมเป็นต้นไปครับ การดำน้ำที่นี่สามารถใช้ wetsuit ธรรมดาแต่หนาหน่อย หรือ semi drysuit ได้ในหน้าหนาว ซึ่งน้ำใสกว่าหน้าร้อนครับ

จุดเด่นคือ แหล่งดำน้ำอยู่ใกล้โอซาก้า ลงจากเครื่องต่อรถไฟที่สนามบินเพียงชั่วโมงเศษ ของกินอร่อย(มาก) มีแหล่งน้ำแร่ on-sen มากมายก่ายกอง อยู่ไม่ไกลจากเกียวโต โกเบ เหมาะสำหรับนักดำน้ำที่ชอบการชอปปิ้ง เส้นทางแนววัฒนธรรม ที่พักราคาไม่แพง เขตนี้เป็นการเที่ยวญี่ปุ่นแบบบ้านๆ รูปแบบการดำน้ำมีทั้ง landscape แปลกตา ปลาฝูงตาโต ปลาฝูงขนาดใหญ่ ปลาทูน่า Amber Jack ทูน่าBlue fin และสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลอื่นๆ เหมาะสำหรับผู้ที่มีเวลาเดินทางพักผ่อนดำน้ำ 1-2วันครับ เดินทางง่ายจริงๆ ขอบอก

เขต Izu Pennisula

แหล่งดำน้ำที่พลาดไม่ได้อีกแห่งของญี่ปุ่น อยู่ตอนกลางของประเทศ ในเขตชิสุโอกะ มีความหลากหลายทางธรรมชาติมาก และมีแหล่งดำน้ำเยอะจริงๆ เขตนี้อยู่ใกล้กับสนามบินนาโงย่า เดินทางประมาณ 1-2ชมโดยรถไฟจากสนามบิน สามารถใช้ wetsuit ธรรมดาหรือ semi drysuitได้ ขึ้นอยู่กับฤดูกาล จุดเด่นเป็นการดำน้ำดูฉลาม hammerheads ในธรรมชาติหลายร้อยตัว กระแสอาจจะค่อนข้างแรงเป็นบางฤดูกาล อาจะไม่เหมาะกับมือใหม่เท่าไหร่ น่าจะเหมาะกับนักดำน้ำระดับ advance หรือดำน้ำมาบ่อยหน่อย

บอกได้เลยครับ ว่าที่นี่มหัศจรรย์มาก เป็นเขตธรรมชาต อาหารทะเล และออนเซ็น สามารถดำน้ำดำได้หลังกรกฏาคมเป็นต้นไปจนถึงเดือนตุลาคม จุดยอดฮิตติดตาก็คือเกาะ Oshima island ซึ่งจริงๆแล้วก็สามารถเดินทางได้ตรงจากเมืองโตเกียวโดยเรือ ferry เพียงไม่กี่ชั่วโมงก็สามารถถดำน้ำดู small rays, crabs, lobster, clown fish เหมาะสำหรับผู้ที่มีเวลาเดินทางพักผ่อนวันหรือสองวันก็เพียงพอแล้วครับ

เขต Fukuoka

เมืองฟุกุโอกะเป็นเมืองที่เงียบสงบมากครับ เป็นแหล่งท่องเที่ยวและแหล่งดำน้ำใหม่ในเขตช่องแคบเกาหลี-ญี่ปุ่น การดำน้ำสามารถใช้ wetsuit ธรรมดาได้ในหน้าร้อนครับ ทะเลสวยน้ำใสทรายเป็นแป้ง จุดเด่นที่เกาะใหญี่ Tsushima Island ที่ห่างออกไปนิดแต่สามารถเดินทางโดยเรือเฟอรี่ขนาดใหญ่ประมาณ 3-4ชม. หรือที่เกาะ Iki Island แค่ประมาณ 1ชมเดินทางได้จากตัวเมืองเลย เรือออกทุกชั่วโมงทุกวัน เรียกว่าสะดวกมากๆ ที่สำคัญ ฟุกุโอกะสามารถบินตรงจากกรุงเทพใช้เวลาแค่ 4.5ชม.

อาหารทะล โดยเพาะปลาหมึกและไข่หอยเม่นอร่อย(มาก) แหล่งน้ำแร่ออนเซ็นมีให้เลือกมากมายหลายรูปแบบ การเดินทางง่าย ราคาไม่แพง อากาศดีตลอดปี อากาศที่นี่ไม่หนาวไม่ร้อนจนเกินไป น้อยคนที่ทราบว่า ที่เกาะซึชิม่า มีแนวปาการังน้ำเย็นที่ดีสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ใกล้เขตเกาหลี ธรรมชาตมากๆครับ อาหารก็บ้านๆอร่อยๆ เหมาะสำหรับผู้ที่มีเวลาเดินทางพักผ่อนดำน้ำ 3-4วันนะครับ เพราะอาจจะต้องเผื่อเวลาเดินทางเล็กน้อย

เขต Ogasawara

เมืองโอกาซาวาระอยู่ในทะเลญี่ปุ่นที่เชื่อมต่อกับทะเลแปซิฟิกครับ ลักษณะเป็นหุบลึกลงไป จุดเด่นคือ หมู่เกาะ Bonin Islands ซึ่งสามารถเรือออกจากโตเกียวใช้เวลาประมาณ 18-24ชม อยู่ใกล้หมู่เกาะชื่อดัง islands of Iwo jima สงบ เงียบ สวย สามรถดำน้ำดูฝูงวาฬอพยพ เป็นการดำน้ำแนวกึ่งผจญภัย สามารถใช้ wetsuit ธรรมดาหรือ semi drysuit ได้สำหรับคนขี้หนาว อากาศดีแทบทุกฤดูกาล ที่นี่เราสามารถพบสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลแปลกๆ ฝูง Manta rays แบบไม่ต้องลุ้น หรือไม่ได้เลี้ยงไว้แบบประเทศอื่น ดำน้ำกับปลาโลมา วาฬหลังค่อม วาฬสีน้ำเงิน ปลาฝูงใหญ่ หลากหลายชนิด เรียกว่าเป็นการดำน้ำ Tropical ผสมสานกับการดู Volcanic Landscape เหมาะสำหรับผู้ที่มีเวลาเดินทางพักผ่อนดำน้ำ 3-4วัน เพราะอาจจะต้องมีเวลาเผื่อไว้นิดนึงครับ

ประเทศญี่ปุ่นยังมีรูปแบบและจุดหมายการดำน้ำที่น่าสนใจอีกมาก คนไทยชอบไปญี่ปุ่นอยู่แล้ว ถ้ามีเวลา สามารถแวะเที่ยวเล่นดำน้ำในหลายที่ข้างต้น อุปกรณ์จะขนไปเองหรือไปเช่าก็ได้(ไม่แพงเลย) มีร้านดำน้ำเยอะ(มาก) ขอบอกว่าการดำนำที่ญี่ปุ่นเป็นประสบการณ์ที่สนุก ไม่จำเจ ไม่เหมือนใคร อิสระ กินอิ่มนอนหลับ และง่ายกว่าที่เราคิด(มาก)ครับ

เร็วๆนี้ทาง Sea Travel Design ร่วมกับ PADI Japan และการท่องเที่ยวในญี่ปุ่นกำลังมี Japan Dive Pass คล้ายๆกับ JR Pass เพื่อความสะดวกและอิสระในการดำน้ำในประเทศญี่ปุ่น ลองติดตามดูนะครับ

LINE @seamastermind #japandivepass

ขอขอบคุณ การท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น การท่องเที่ยวจังหวัดชิสุโอกะ การท่องเที่ยวจังหวัดโอกินาว่า การท่องเที่ยวจังหวัดมิเอะ

about him

A non-political traveler, a long-standing certified dive instructor, a pilot-in -training, an underwater photographer and most importantly a man who is still learning with himself on his own pace with growing number of deep sea interests.

bottom of page