คำถาม.. ที่ว่ายกลับมาหาคำตอบ
เดือนที่ผ่านมาได้มีโอกาสสอนน้องกลุ่มหนึ่ง ตอนเจอกันครั้งแรก แอบได้ยินน้องเค้าคุยกันในเรื่องสัพเพเหระ ก็เหมือนนักดำน้ำมือใหม่ทั่วไปครับ ที่เริ่มแรกก็มักจะมีคำถามมากมาย จะดำน้ำได้มั้ยถ้าว่ายน้ำไม่เป็น จะเรียนหนักฝึกหนักเกินไปหรือเปล่า ทำไมครูต้องทำอย่างโน้นอย่างนี้ด้วย และจบท้ายด้วยความแตกต่างและข้อจำกัดที่เริ่มเห็นได้ชัด ซึ่งก็คือความไม่เหมือนกันที่มีสเน่ห์ของแต่ละคน ทั้งเรื่องเวลา ทักษะ อารมณ์ และความรู้สึกที่รับหลังจากน้องเรียนผ่านไปได้ซักพัก
ทุกครั้งที่ผมสังเกตสีหน้านักเรียนระหว่างการสอน มีโอกาสมองเห็นเฉดต่างไปของสีครับ ไม่ใช่สีหน้าอันอ่อนระโหยเพราะการฝึก หรือสีใสสดจากหน้าตาน้องนักดำน้ำเพราะความตื่นเต้นเมื่อเริ่มการเรียนในสระครั้งแรก แต่สีที่เห็น เป็นสีที่มีหลายอารมณ์ของ ความจริง ความรู้สึก และความรัก ปนเปกันไป สีที่เห็นบนหน้าของน้องแต่ละคนละเลงอยู่บนความสนุกเมื่อได้เจอสิ่งใหม่ เปื้อนอยู่บนความไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเมื่อกำลังจะก้าวกระโดดลงจากเรือ
สีเชื่อมต่อกับอารมณ์ของนักดำน้ำเหมือนสีของทะเล สีของทะเลเป็นสัญลักษณ์ที่มีอัตลักษณ์อันเต็มไปด้วยสเหน่ห์ของมหาสมุทรสุดกว้างใหญ่ที่เปลี่ยนแปลงได้ตามความลึกและขอบฟ้าครับ สีของทะเลเปรียบได้กับอารมณ์ซึ่งนำพาความรู้สึกและมนต์สเน่ห์จากโลกใต้ทะเลให้คนอื่นคล้อยตาม สีของทะเลสามารถแปลความหมายตามความรู้สึกที่เราเลือก บางครั้งความรู้สึกของสีนั้นก็ไม่จำเป็นต้องเป็นความจริงเสมอไป สีที่เกิดขึ้นในโลกใต้ทะเลจึงเป็นตัวแทนของอะไรได้หลายอย่าง มองได้จากหลายมุม ซึ่งคงจะเป็นมุมที่จริงบ้าง ลวงบ้าง แล้วแต่ว่าเราจะเอามาแทนตัวของเราเองในมุมไหน หรือแทนอย่างไร
ภาพชีวิตของนักดำน้ำมักมีสีหลากสีครับ เพราะการดำน้ำ หรือสีของทะเล ไม่สามารถระบายให้จบในครั้งเดียว กว่าจะได้ภาพที่สมบูรณ์ นักดำน้ำมักผ่านการใช้สีหลายสี มากน้อยไม่เท่ากัน
ทะเลสีครามถึงแม้จะดูสวยคม แต่เป็นสีที่ระบายออกถึงอารมณ์แบบน่าค้นหา ว่าอะไรอยู่ใต้เบื้องลึกของเปลวแดดที่กระทบกับปลายน้ำ อารมณ์ที่ในชีวิตอาจจะไม่ได้เจอทุกวันแต่ก็รู้ว่าจำเป็นต้องมีอยู่ และเมื่ออยู่ในภาพ ทะเลสีครามนี้ก็คือการเตือนความทรงจำ ว่าภาพที่จะสมบูรณ์ได้มันไม่ได้ต่างกับชิวิตนักดำน้ำ ที่เตือนใจเราว่าความสวยบนผิวน้ำ ไม่ใช่เรื่องราวอันหมดจรดที่สามารถเล่าครั้งเดียวได้สมบูรณ์ไม่มีตำหนิ
เมื่อเราดำน้ำลึกลงไประดับหนึ่ง ทะเลจะกลายเป็นสีเขียว สีเขียวของทะเลเป็นสีความพอพอเพียง เป็นสีของความผูกพันธ์ที่เริ่มก่อแบบอาจจะไม่ลงเอย สีเขียวเป็นสีของอารมณ์ที่บางครั้งเรายังไม่แน่ใจ ว่าจะดำลงไปต่อ หรือจะกลับขึ้นสู่ผิวน้ำตั้งหลักใหม่กันดี แต่สีเขียวยังเป็นสีที่เปี่ยมไปด้วยความหวัง เต็มพลังให้หัวใจไปต่อ ถ้าพอจะมองหาหรือสะกิดให้คนข้างเรารู้ซักนิด ว่าเรายังพร้อมจะดำลึกลงไปด้วยกัน
สีแดงที่ร้อนแรงมันจะคอยแอบหลบหนีหายไปเมื่อเราดำน้ำลึกลงไปเรื่อยครับ สีแดงของทะเลคืออารมณ์ที่แฝงไปด้วยพลัง ยิ่งลงลึก ยิ่งถลำตัว ยิ่งอึดอัด แต่ความลึกของสีที่หายไปจากทะเลสีนี้ เป็นความหมายที่นักดำน้ำหลายคนพร้อมที่จะเดินหน้าต่อเพื่อดูโลกที่กำลังแปลความหมายอีกแบบให้เราดู ความหมายที่บางครั้งเราตั้งคำถามไว้ คำถามที่เราอยากจะหาคำตอบ
สำหรับหลายคน การดำน้ำดูว่ายาก แต่ด้วยความพยายาม อะไรก็เป็นไปได้ครับ สีที่ระบายอยู่บนชีวิตของนักดำน้ำแต่ละรุ่น แต่ละคน ไม่มีเหมือนกัน ครูสอนดำน้ำไม่ใช่จิตรกร แต่เป็นคนช่วยมองและลดทอนความไม่พอดีของอารมณ์ ความเกินเลยของสีบางสีของนักดำน้ำ ครูมีหน้าที่ช่วยรักษาสมดุลของภาพวาดที่ผสมผสานไปด้วยความหลากหลายของสีบนความรู้สึกของน้องนำดำน้ำให้ลงตัวกับสีของโลกใต้ทะล
ภาพวาดแรกของทะเลเป็นแค่จุดเริ่มต้นของนักดำน้ำครับ ถึงจะวาดให้สวยจากความพยายามผสมสีตั้งแต่เริ่มต้น แต่เมื่อเวลาผ่านไป อะไรก็เก่าลงได้ ภาพนั้นจึงจำเป็นต้องมีการเสริมเติมแต่งเพื่อให้ทะเลและการดำน้ำสวยคู่กันอยู่เสมอ การดำน้ำก็เหมือนเรื่องหลายเรื่องในชีวิตที่ทุกคนต้องมีครั้งแรก สีที่ครูอยากให้น้องนักดำน้ำเลือกใช้จึงเป็นเพียงแค่เติมจุดแตกต่างหรือสิ่งที่ขาดหายในภาพ ภาพที่อาจจะจาง อาจจะบางลงไปบ้าง
เมื่อเราเรียนผ่านไป ได้เป็นนักดำน้ำเต็มตัว นั่นคือจุดเริ่มต้น เพราะการเป็นนักดำน้ำไม่ต่างจากการเริ่มวาดภาพด้วยการตวัดปลายภู่กันแรกบนผืนทะเลแล้วมองหาจุดต่อไปในภาพเอง ชีวิตนักดำน้ำจึงเป็นภาพวาดที่ต้องคอยเติมตรงนั้นบ้าง ตรงนี้บ้าง บางครั้งใช้สีโน้น บางครั้งสีนี้ เติมไปอยู่ไป ไม่มีวันเสร็จ
เพราะการดำน้ำของเรา ไม่ว่าจะเรียนหลักสูตรอะไร ลงน้ำไปแล้วกี่ร้อยไดฟ์ น้ำจะสวย ปลาตัวโต หรือเราจะดำน้ำเก่งแค่ไหน น้ำทะเลก็ยังมีหลากสีหลายอารมณ์ คลื่นลมยังคงแปรเปลี่ยน ท้องฟ้ายังมีหลายหลายความรู้สึกให้เรามอง
ชีวิตนักดำน้ำ จึงอยู่ที่เราเลือกมองหาอารมณ์ของสีไหน นำมาระบายในภาพถัดไป..
แล้วว่ายกลับไปค้นหาคำตอบใหม่
..ของอีกหลายไดฟ์ในชีวิตครับ